Category: Lifestyle

  • วิธีบอกรักน้องหมา น้องแมวสไตล์คุณเป็นแบบไหน !

    วิธีบอกรักน้องหมา น้องแมวสไตล์คุณเป็นแบบไหน !


    วิธีบอกรักน้องหมา น้องแมวสไตล์คุณเป็นแบบไหน !ขอต้อนรับเทศกาลวันแห่งความรักด้วยวิธีการบอกรักน้องหมา น้องแมวตามสไตล์คนคลั่งรักก <3 จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกัน 1. ลูบไล้ให้หายคิดถึง : เพราะการลูบไล้น้องหมา น้องแมว คือการบอกรักที่อ่อนโยน เจ้าของสายคลั่งรักแบบเราก็อยากบอกรักในแบบที่พวกเขารู้สึกสบายใจมากที่สุด โดยการลูบไล้นับเป็นวิธีการบอกรักที่เลียนแบบพฤติกรรมตามธรรมชาติของน้อง ๆ (เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเห็นน้องหมา น้องแมวเลียหน้า เลียตาเพื่อน ๆ ของพวกเขาใช่ไหม นั่นล่ะ วิธีการลูบไล้บอกรักของพวกเขา ><) ทั้งนี้บริเวณที่เหมาะสมต่อการลูบไล้ คือ บริเวณหัว หน้า และลำตัว โดยควรหลีกเลี่ยงบริเวณหาง อุ้งเท้า หรือจุดซ่อนเร้นที่พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ เพียงเท่านี้น้อง ๆ ก็รับรู้ว่าเรากำลังบอกรักเขาแล้วล่ะ <3 2. ป้อนขนมให้หนำใจ : กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ! น้องหมา น้องแมวก็เหมือนเด็กน้อยที่ชอบกินขนมเป็นชีวิตจิตใจ การให้ขนมกับน้องหมา น้องแมวเป็นหนึ่งในวิธีการบอกรักที่พวกเขาชอบสุด ๆ อย่างไรก็ตามการให้ขนมในปริมาณมากเกินไป หรือให้ขนมที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุทำให้น้องหมา น้องแมวเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ทางที่ดีควรจำกัดปริมาณการให้ในขนาดที่ข้างซองขนมแนะนำ และให้ขนมที่มีประโยชน์ เช่น ขนมขัดฟันที่ช่วยลดการสะสมของคราบหินปูน หรือให้เป็นรางวัลในขณะฝึก เพียงเท่านี้น้องหมา น้องแมวก็ปลื้มปริ่มสุด ๆ แล้วล่ะ…

  • เตรียมรับมือ 3 สถานการณ์ต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องหมา น้องแมว

    เตรียมรับมือ 3 สถานการณ์ต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องหมา น้องแมว


    เตรียมรับมือ 3 สถานการณ์ต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องหมา น้องแมวเริ่มต้นปีแบบนี้ ใครกำลังตั้งปณิธานว่าอยากจะเริ่มเป็นคุณพ่อ คุณแม่น้องหมามือใหม่มาเตรียมความพร้อมกันเถอะ !กับ 3 สถานการณ์ต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องหมา น้องแมว จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ! 1. น้องแมวมักชอบตื่นกลางดึก : “ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ นั่นมันเสียงอะไรกัน ! เอ๊ะ ! น้องแมวนี่นา ดึก ๆ ดื่น ๆ ทำไมไม่ยอมน๊อนนน” ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณจะพบเห็นน้องแมวชอบตื่นกลางดึกมากระโดดโลดเต้น เพราะน้องแมวเป็นสัตว์ตื่นกลางคืน และมักส่งเสียงร้องอ้อนให้เราไปเล่นด้วยอยู่เป็นประจำ (แต่ถ้าน้องแมวส่งเสียงร้องตลอดเวลาทั้งกลางวัน และกลางคืน อย่าลืมนึกถึงปัญหาสุขภาพ และพาน้องไปรับการตรวจจากคุณหมอด้วยล่ะ) วิธีการแก้คือการชวนน้องแมวทำกิจกรรม หรือเล่นของเล่นตั้งแต่ช่วงเย็น เมื่อพวกเขาเหนื่อย พวกเขาก็จะนอนหลับในช่วงกลางคืนนั่นเอง ! 2. น้องหมาชอบกัดแทะข้าวของ : ไม่ว่าจะรองเท้า ขอบโต๊ะ ขาเก้าอี้ก็ไม่อาจรอดพ้นคมเคี้ยวน้องหมาไปได้ อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของมือใหม่ต้องเตรียมรับมือคือพฤติกรรมการกัดแทะของน้องหมา โดยเฉพาะน้องหมาที่มีอายุน้อย เพราะน้องหมาวัยนี้เป็นวัยที่กำลังอยากเล่น อยากเรียนรู้ พวกเขามักชอบลับคมเคี้ยวกับสิ่งของใกล้ตัว วิธีการแก้คือการหาของเล่น หรือขนมขัดฟันให้เขาได้แทะ และฝึกให้เขาเรียนรู้ว่าการกัดแทะสิ่งของ (ที่ไม่ใช่ของเล่น) เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะลดพฤติกรรมเหล่านี้ลงไปนั่นเอง 3. เลี้ยงดีแค่ไหนก็เจ็บป่วยได้ทุกเมื่อ :…

  • เคล็ด (ไม่) ลับ หมดกังวลกับพยาธิหนอนหัวใจ

    เคล็ด (ไม่) ลับ หมดกังวลกับพยาธิหนอนหัวใจ


    เคล็ด (ไม่) ลับ หมดกังวลกับพยาธิหนอนหัวใจเจ้าของน้องหมายุคใหม่ ใคร ๆ ก็กังวลกับพยาธิหนอนหัวใจ เพราะพยาธิหนอนหัวใจ ติดต่อกันได้ง่าย ๆ เพียงแค่การโดนยุงกัดแค่ครั้งเดียว แถมยังก่อโรครุนแรงในน้องหมา ส่งผลให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากการอักเสบที่บริเวณปอด และภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งอาจทวีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยล่ะ ! แล้วแบบนี้เจ้าของอย่างเราควรทำอย่างไรดี ?ไม่ต้องกลัว ! วันนี้เรามีเคล็ด (ไม่) ลับ หมดกังวลกับพยาธิหนอนหัวใจมาฝาก รับรองว่าทำตามนี้บอกลาพยาธิหนอนหัวใจไปได้เลย จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ! 1. หลีกเลี่ยง “ยุง” พาหะร้ายของพยาธิหนอนหัวใจ : ยุง พาหะของพยาธิหนอนหัวใจที่สามารถพบได้ทั่วไปในทุก ๆ ที่ แค่การโดนกัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้น้องหมาติดพยาธิหนอนหัวใจได้ นอกจากนี้ “ยุง” ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้น้องหมาที่ถึงแม้จะเลี้ยงอยู่แค่ตัวเดียวภายในบ้านก็สามารถติดพยาธิหนอนหัวใจได้ เนื่องจากยุงเหล่านี้มักชอบดูดกินเลือดจากน้องหมาจรจัดที่ขาดการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ เมื่อยุงเหล่านี้บินมาดูดเลือดน้องหมาของเรา น้องจึงได้รับพยาธิหนอนหัวใจตามมาโดยไม่รู้ตัว วิธีการหลีกเลี่ยงยุงง่าย ๆ เพียงเลี้ยงน้องหมาในพื้นที่ปิด ติดมุ้งลวดให้ ณ บริเวณที่นอนของน้องหมา และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงรอบบ้าน เพียงเท่านี้ก็ลดโอกาสการสัมผัสกับยุงไปได้มากแล้วล่ะ 2. พาน้องหมาไปตรวจคัดกรองการติดพยาธิหนอนหัวใจ : ถึงจะดูแลดีแค่ไหน แต่การตรวจสุขภาพน้องหมาก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะอย่าลืมว่าการโดนยุงกัดเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำให้น้องหมาติดพยาธิหนอนหัวใจได้ อีกหนึ่งเคล็ด…

  • รู้หรือไม่ ยุงกัดครั้งเดียวก็เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

    รู้หรือไม่ ยุงกัดครั้งเดียวก็เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต


    รู้หรือไม่ ยุงกัดครั้งเดียวก็เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต “ยุงกัดไม่ใช่แค่คัน แต่อันตรายได้ถึงชีวิต !”เพราะนอกจากอาการคัน และตุ่มนูนที่เกิดขึ้นภายหลังการโดนยุงกัดแล้ว รู้หรือไม่ ? ยุงยังเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจ การโดนยุงกัดจึงเป็นสาเหตุให้น้องหมาติดพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตร้ายที่อัตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย ! พยาธิหนอนหัวใจคืออะไร ?พยาธิหนอนหัวใจ คือปรสิตร้ายที่มียุงเป็นพาหะ เมื่อใดที่พยาธิหนอนหัวใจเข้าสู่ร่างกายน้องหมา พวกมันจะอาศัย และแอบซ่อนตัวอยู่ภายในระบบหมุนเวียนเลือด ถึงแม้ว่าขนาดตัวของมันจะเล็กจิ๋วในระดับที่สามารถอาศัยอยู่ภายในร่างกายของยุงได้ แต่เมื่ออยู่ในร่างกายน้องหมา พวกมันจะเจริญเติบโต และเกิดการสืบพันธุ์เพิ่มจำนวนจนอัดแน่นเต็มหัวใจ และปอด ส่งผลให้น้องหมาเกิดอาการป่วย และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ! พยาธิหนอนหัวใจติดต่อกันได้อย่างไร ?การติดต่อของพยาธิหัวใจในน้องหมาต้องขอบอกว่าเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ! เพียงแค่การโดนยุงกัดเพียงครั้งเดียวน้องหมาก็สามารถติดพยาธิหนอนหัวใจได้แล้ว โดยพยาธิหนอนหัวใจที่เข้าสู่ร่างกายจะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อยุงตัวใหม่มากัดน้องหมา ตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจเหล่านี้จะเคลื่อนย้ายไปอาศัยในร่างกายของยุง ส่งผลให้ยุงตัวนั้น ๆ กลายเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจต่อไป ก่อให้เกิดการระบาดของพยาธิหนอนหัวใจจากน้องหมาตัวหนึ่ง ไปสู่น้องหมาอีกตัวหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ! พยาธิหนอนหัวใจก่อโรคได้รุนแรงแค่ไหนกันนะ ?การติดพยาธิหนอนหัวใจในช่วงต้นอาจไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงมากในน้องหมา แต่เมื่อไรที่เจ้าของปล่อยไว้ให้พยาธิหนอนหัวใจเหล่านี้เติบโตขึ้นภายในร่างกาย พยาธิหนอนหัวใจจะก่อให้เกิดความผิดปกติหลัก ๆ 2 ระบบ คือ1. ระบบหายใจ โดยเฉพาะบริเวณปอด : พยาธิหนอนหัวใจจะอุดตันหลอดเลือดปอด และก่อให้เกิดการอักเสบ น้องหมาจะแสดงอาการไอมาก หายใจลำบาก2.…

  • แจกพิกัดสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ พาน้องหมาไปวิ่งได้

    แจกพิกัดสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ พาน้องหมาไปวิ่งได้


    แจกพิกัดสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ พาน้องหมาไปวิ่งได้ วิ่ง วิ่ง วิ่ง ! ><สายฟิตอย่างเราต้องออกไปวิ่งเบิร์นไขมันซะหน่อย >< แต่จะออกไปวิ่งคนเดียวก็ดูจะเหงาเกินไป แบบนี้ต้องพาน้องหมาออกไปสนุกด้วยกันดีกว่า !แจกพิกัดสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ พาน้องหมาออกไปวิ่งเล่นด้วยกันได้ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน 1. สวนป่าเบญจกิติ : ขอเริ่มต้นที่อีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ ป่าใหญ่ใจกลางกรุงกับสวนป่าเบญจกิติที่บอกได้เลยว่าถูกใจสายชิล สายฮิปชอบถ่ายรูปอย่างแน่นอน ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 450 ไร่ ผนวกรวมกับบรรยากาศอันแสนสงบทำให้สวนแห่งนี้เป็นจุดหมายของชาวกรุงหลายคน นอกจากนี้สวนป่าเบญจกิติยังมีโซน Dog Park ให้เจ้าของได้พาน้องหมาออกไปวิ่งเล่น พักผ่อน พบปะเพื่อนใหม่ เจ้าของท่านใดสนใจติดต่อลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ไลน์ @701uemys ได้เลย ! 2. สวนวัชราภิรมย์ : หากกำลังวางแผนพาน้องหมาไปวิ่งในสวนจะไม่คิดถึงสวนวัชราภิรมย์ หรือ BMA Dog Park ไปได้อย่างไร ! เพราะสวนแห่งนี้คือสวนสาธารณะเพื่อน้องหมาแห่งแรกในประเทศไทยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนรักน้องหมาอย่างครบครัน แถมยังได้รับการออกแบบเพื่อความเป็นมิตรกับน้องหมาอย่างแท้จริง นอกจากนี้สวนแห่งนี้ยังอยู่ภายใต้โครงการ Better Cities for Pets หรือเมืองน่าอยู่สำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้ความร่วมมือของ กทม. มั่นใจได้เลยว่าพาน้องหมามาวิ่งเล่นในสวนนี้ต้องฟินสุด ๆ อย่างแน่นอน ><…

  • อย่าปล่อยให้น้องโดนหมัด !

    อย่าปล่อยให้น้องโดนหมัด !


    3 เทคนิคพิชิตหมัด ร้ายแค่ไหนก็เอาอยู่ ! เพราะการโดนหมัดกัดอาจเป็นที่มาของภาวะโลหิตจาง และภาวะภูมิแพ้น้ำลายหมัดมาปกป้องน้องหมาให้ปลอดภัยไร้หมัดไปกับ 3 เทคนิคพิชิตหมัด ร้ายแค่ไหนก็เอาอยู่กันเถอะ ! เทคนิคที่ 1 ปกป้องจากภายในใช้โปรแกรมปกป้องเป็นประจำทุกเดือนการปกป้องน้องหมาจากหมัดที่ดีที่สุดที่สัตวแพทย์แนะนำ คือการเสริมเกราะป้องกันโดยใช้โปรแกรมปกป้องที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และต้องใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โปรแกรมปกป้องนี้จะช่วยกำจัดหมัดตั้งแต่ครั้งแรกที่หมัดกัดน้องหมา ส่งผลให้หมัดลดน้อยลง แถมโปรแกรมปกป้องในปัจจุบันยังสามารถป้องกันได้ปรสิตภายนอกนอกจากหมัด เช่น เห็บ และปรสิตภายใน เช่น พยาธิหนอนหัวใจที่มียุงเป็นพาหะ และพยาธิในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย เรียกได้ว่าปกป้องครั้งเดียว แต่ครอบคลุม สบายใจ หายห่วงได้เลย ! เทคนิคที่ 2 ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอเสริมเกราะป้องกันปรสิตให้น้องหมาแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะไข่หมัดมักหลบซ่อนอยู่ตามพื้นบ้าน ซอกพื้น แฝงรวมไปกับเศษฝุ่น หรือแม้กระทั่งผ้าม่าน โซฟา ที่นอน หมอน และมุ้งของน้องหมา ไข่เหล่านี้สามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายปี เมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม พวกมันจะฟักออกจากไข่ และกระโดดขึ้นไปบนตัวน้องหมาเพื่อดูดเลือดน้องหมาเป็นอาหาร ดังนั้นอย่าลืมกวาดบ้าน และดูดฝุ่นภายในบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตลอดจนทำความสะอาดที่นอนน้องหมาด้วยการนำที่นอนไปซักอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพียงเท่านี้ก็ลดโอกาสการสะสมของหมัดในสิ่งแวดล้อมไปได้มากแล้วล่ะ เทคนิคที่…