Category: การดูแลสุนัข
-
เห็บกัดระวังพยาธิเม็ดเลือด !
โรคร้ายที่แฝงมากับเห็บ ปล่อยไว้อันตรายถึงชีวิต ! รู้หรือไม่ !? เห็บกัดไม่ใช่แค่คัน แต่ยังนำโรคร้ายอย่าง “โรคพยาธิเม็ดเลือด” มาสู่น้องหมาได้อีกด้วย ! 😱 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากอะไรกันนะ ? 🐶โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมี “เห็บ” เป็นพาหะ โดยน้องหมาจะได้รับเชื้อชนิดนี้ผ่านทางการโดนเห็บกัด สามารถพบได้บ่อยในน้องหมาที่ไม่ได้รับการป้องกันปรสิตอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้โปรแกรมป้องกันปรสิตที่ไม่ได้มาตรฐาน 🩸 อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดเป็นอย่างไร ? 🤔อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด คือ น้องหมาจะมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองบวมโต หายใจลำบาก ในบางรายอาจพบจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล และอาการทางประสาทร่วมด้วยได้ 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดรักษาได้อย่างไร ? 💊หากน้องหมาป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือด สัตวแพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานถึง 28 วัน โดยหลังจากให้ยาครบตามจำนวนแล้ว น้องหมาจะต้องเข้ารับการตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในร่างกาย หากยังคงตรวจพบเชื้ออยู่ น้องหมาจำเป็นต้องได้รับยาต่อเนื่องอีกครั้งจนกว่าจะหาย หรือทำการเปลี่ยนชนิดของยาเพื่อทำการกำจัดเชื้อให้สิ้นซาก ร่วมไปกับการรักษาตามอาการ เช่น การให้สารน้ำ การให้ยาลดอักเสบ ยากดภูมิ หรือแม้กระทั่งการถ่ายเลือดในรายที่มีอาการรุนแรง 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือด ป้องกันไว้ดีกว่าตามรักษา 🛡ถึงแม้โรคพยาธิเม็ดเลือดจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็ยากที่จะฟื้นฟูกลับมาได้เหมือนเก่า ซ้ำร้ายหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม…
-
เลี้ยงน้องหมาในบ้าน ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต
“การป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา” ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่น้องหมาก็ยัง “จำเป็น” ต้องป้องกันปรสิต3 เหตุผลที่ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่ก็ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต ได้แก่ 1. ปรสิตสามารถติดมากับเจ้าของได้ 👫🏻ไม่ว่าจะเห็บ หมัด หรือไข่ของพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ปรสิตร้ายเหล่านี้สามารถติดมากับเจ้าของได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือแม้กระทั่งบนร่างกายของเจ้าของเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของท่านไหนที่มักเดินทางไปในบริเวณที่มีความสกปรก บริเวณที่เป็นพื้นดิน หรือบริเวณที่มีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาให้อยู่แค่ภายในบ้าน แต่ปรสิตร้ายก็อาจเข้ามารุกรานน้องหมาได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีอย่าลืมเสริมเกราะป้องกันให้ครบทั้ง 3 ชั้น เพื่อปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจ เห็บ หมัด และพยาธิทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถติดได้ง่าย และพบเจอได้บ่อย ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด ! 2. ปรสิตอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 🌴ความน่ากลัวของปรสิตไม่หยุดเพียงแค่สามารถติดต่อได้ง่าย แต่พวกมันยังมีความคงทน สามารถอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน เช่น เห็บสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 ปี (โดยในระหว่าง 2 ปีนี้ เห็บเพศเมียจะสามารถออกไข่ได้สูงสุดถึง 4,000 ฟอง !) หมัดสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 6 เดือน (แถมในระหว่าง 6 เดือนนี้ หมัดเพศเมียยังสามารถออกไข่ได้มากถึงวันละ 50…
-
เพราะโรคพยาธิหนอนหัวใจ คือหนึ่งโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต
หากน้องหมาป่วยด้วยโรคหัวใจสามารถทำการรักษาอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน ! 💉 รักษาโดยการให้ยาmน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจสามารถทำการรักษาได้ด้วยการกินยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบแฝงมากับพยาธิหนอนหัวใจ ร่วมกับการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบั้นเอวเพื่อช่วยในการกำจัดพยาธิหนอนหัวใจตัวเต็มวัยอย่างช้า ๆ ซึ่งการรักษานี้จำเป็นต้องให้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (ประมาณ 90 วัน) อีกทั้งตัวยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังก่อให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก (มากจนคุณหมอต้องให้ยาแก้ปวดควบคู่ไปด้วยทุกครั้งเลยล่ะ) แถมในระหว่างการรักษายังจำเป็นต้องจำกัดบริเวณน้องหมา ด้วยการขังกรง หรือควบคุมให้น้องหมาเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย เรียกได้ว่าทรมานทั้งเจ้าของที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด ทรมานทั้งน้องหมาที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และแสนเจ็บปวดเลยทีเดียว 🩸 รักษาโดยการผ่าตัดสำหรับน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจขั้นรุนแรง หรือเกิดภาวะพยาธิหนอนหัวใจอุดตัน (caval syndrome) คุณหมออาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อเอาพยาธิหนอนหัวใจออกจากร่างกาย ทั้งนี้การผ่าตัดดังกล่าวนับว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายน้องหมาจะอ่อนแอ และด้วยระบบหมุนเวียนเลือดที่มีปัญหาย่อมส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการวางยาสลบมีมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องหมาอาจเสียชีวิตในระหว่างขั้นตอนการรักษาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากจำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด คุณหมอจะแจ้งความเสี่ยงดังกล่าวให้กับเจ้าของ และตัดสินใจวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป 🧡 เสริมการป้องกันด้วยโปรแกรมปกป้องจาก Super TRIOโปรแกรมปกป้องจาก Super TRIO จะช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับน้องหมา ช่วยให้น้องหมาปลอดภัยจากพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิต สามารถให้ได้ในระหว่างที่น้องหมากำลังทำการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจ ด้วยฤทธิ์ในการกำจัดตัวอ่อนของพยาธิจะช่วยให้พยาธิหนอนหัวใจไม่เกิดการเพิ่มจำนวน อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการพัฒนาของตัวอ่อนเป็นตัวเต็มวัยได้อีกด้วย และเมื่อน้องหมาหายจากโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว Super TRIO จะช่วยปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจตัวใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับการโดนยุงกัด หมดกังวลว่าน้องหมาจะกลับไปเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจซ้ำได้เลย ! รักน้องหมา อย่าปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ เสริมเกราะป้องกันให้น้อง ๆ…
-
ไปโรงบาลก็นั่งชิลได้ !
Passion Cafeร้านกาแฟ Pet Friendly สำหรับคนรักน้องหมา น้องแมว เปิดโลกใหม่กับการพาน้องหมา น้องแมวไปนั่งชิลที่(คาเฟ่)ในโรงพยาบาลสัตว์ กับ Passion Cafe ! 🥳คาเฟ่เปิดใหม่ภายในโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ที่มีจุดเด่นทั้ง ✅ คาเฟ่ Pet Friendly ที่เจ้าของสามารถพาน้องหมา น้องแมวมานั่งชิลพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน 🐶 🐱 ✅ บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้หลากหหลายสีสันที่ลงตัว ให้บรรยากาศแบบสวนดอกไม้ สายรักธรรมชาติห้ามพลาด ! 🌸 ✅ ให้บริการทั้งกาแฟสด เครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารจานเดียว อีกทั้งยังมีอาหารและขนมน้องหมาและน้องแมวให้บริการอีกด้วย ☕️🥐🍛 ถึงแม้จะไม่ได้พาน้องหมา น้องแมวมารักษาก็สามารถมานั่งเล่น นั่งชิลได้ ตอบโจทย์สายคาเฟ่สุด ๆ 😍รู้แบบนี้อย่ารอช้า ไปนั่งจิบกาแฟ พาน้องหมา น้องแมวมานั่งชิลกันได้เลยยย ❤️ 🗓 ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 19.00 น.☎️ เบอร์โทรศัพท์ :…
-
How to พาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีน
เพราะเรารู้ว่าการเป็นคุณพ่อ คุณแม่ (สำหรับน้องหมา น้องแมว) มือใหม่ มีเรื่องให้น่าปวดหัวมากแค่ไหน 😂โดยเฉพาะขั้นตอนการพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีนที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ก็จริง ๆ แล้วก็มีรายละเอียดให้ใส่ใจ (แถมยังมองข้ามไม่ได้) 🤔ในวันนี้ เราจะมาเผยขั้นตอนแบบละเอียด(ยิบ) สำหรับการพาน้องหมา น้องแมวไปรับการฉีดวัคซีนกับคุณหมอ จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกัน ! 1. เตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน 🏠ก่อนพาน้องหมา น้องแมวออกจากบ้านเพื่อไปฉีดวัคซีน อย่าลืมเตรียมสายจูงสำหรับน้องหมา หรือตะกร้าสำหรับใส่น้องแมวให้พร้อม และจดบันทึกข้อมูลที่สำคัญ เช่น อายุ โรคประจำตัว ประวัติการรักษา และที่สำคัญอย่าลืมสังเกตความผิดปกติ หรือความเจ็บป่วยที่น้องหมากำลังเป็น (อาจสังเกตจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป) เพราะหากน้องหมากำลังเจ็บป่วย สัตวแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาจนหายดีก่อน แล้วจึงวางแผนการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา เช่น น้องหมามีอาการป่วยที่แย่ลง หรือการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เป็นต้น 2. แจ้งเจ้าหน้าที่ 👩🏻⚕️เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล หรือคลินิก เจ้าของสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับการฉีดวัคซีน (หรือยื่นใบนัด กรณีมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น) และแจ้งประวัติสุขภาพเบื้องต้นเพื่อรอพบคุณหมอได้เลย ! 3. รับการตรวจ และฉีดวัคซีนกับคุณหมอ 👨🏻⚕️เมื่อคุณพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจ คราวนี้ก็ถึงเวลาฉีดวัคซีนกันแล้ว !…
-
แจกโพยวัคซีนฉบับอัพเดต !
ใครกำลังมองหาโปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องหมา น้องแมวอยู่บ้าง ยกมือขึ้น ! 🙋🏻♂️2023 นี้ ต้องพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีนอะไรบ้างไปดูกันเลย 🥳 🐶 โปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องหมา🗓 อายุ 8 สัปดาห์ (2 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มแรก🗓 อายุ 12 สัปดาห์ (3 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มที่สอง วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรก🗓 อายุ 16 สัปดาห์ (4 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มที่สาม วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มที่สอง🗓 ทุกปี : วัคซีนรวม และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มกระตุ้น* วัคซีนรวมสำหรับน้องหมาสามารถป้องกันโรคร้ายได้ 5 โรค ได้แก่ โรคไข้หัดสุนัข โรคตับอักเสบ โรคลำไส้อักเสบ โรคหวัดและหลอดมลมอักเสบ และโรคฉี่หนู** โปรแกรมวัคซีนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค การระบาดของโรคในพื้นที่ สุขภาพของน้องหมา และการเลี้ยงดูจากเจ้าของ 🐱 โปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องแมว🗓 อายุ 8 สัปดาห์ (2…
-
สร้างภูมิปลอดภัย ป้องกันโรคร้ายด้วยวัคซีน
เพราะเชื้อโรคร้ายอยู่รายล้อมรอบตัวน้องหมา น้องแมว และพวกมันอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการป่วยได้ทุกเมื่อการพาน้องหมา น้องแมวไปรับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์จึงเป็นหนึ่งในการดูแลที่เจ้าของควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้น้องหมา น้องแมวมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้มากขึ้น !3 เรื่องที่เจ้าของควรรู้ก่อนพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีน มีดังนี้ ✅ 1. เริ่มเข็มแรกที่ 2 เดือน !เมื่อน้องหมา น้องแมวมีอายุได้ 8 สัปดาห์ หรือประมาณ 2 เดือน เจ้าของควรพาน้องหมา น้องแมวไปรับการตรวจร่างกาย และเริ่มโปรแกรมวัคซีนเข็มแรกเพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกเขา เพราะช่วงอายุนี้เป็นช่วงอายุที่ระดับภูมิคุ้มกันที่น้อง ๆ ได้รับจากแม่เริ่มลดน้อยลง และเป็นช่วงที่พวกเขามีโอกาสในการติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสูง การได้รับวัคซีนจะช่วยให้ร่างกายของน้องหมา น้องแมวเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง และสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย ป้องกันอาการป่วยจากการติดเชื้อได้ ! ✅ 2. วัคซีนหลักต้องทำให้ครบ !โดยปกติสัตวแพทย์จะทำการแบ่งประเภทของวัคซีนออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ วัคซีนหลัก (แนะนำให้ฉีดในน้องหมา น้องแมวทุกตัว) และวัคซีนทางเลือก (แนะนำให้ฉีดในน้องหมา น้องแมวที่มีความเสี่ยงต่อโรคนั้น ๆ สูง) โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้🐶 วัคซีนหลักในน้องหมา ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัดสุนัข…
-
ไขข้อสงสัยปัญหาโลกแตกสำหรับคนเลี้ยงน้องหมา
“ปกป้องน้องหมาก็แล้ว ทำไมน้องหมายังมีเห็บ ?”แชร์ 3 เหตุผลยอดฮิตที่ทำให้การป้องกันเห็บในน้องหมาไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำเทคนิคการป้องกันอย่างถูกวิธีจากคำแนะนำของสัตวแพทย์ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ! ใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาเถื่อนสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้การปกป้องน้องหมาจากเห็บไม่มีประสิทธิภาพ คือการเลือกใช้โปรแกรมปกป้องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้ยาเถื่อนที่ไม่ได้รับการแนะนำจากสัตวแพทย์ โดยยาเหล่านี้มักเป็นตัวยาที่ไม่ได้รับการทดสอบว่าสามารถออกฤทธิ์กำจัดเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือดได้มากน้อยเพียงใด ประสิทธิภาพจึงไม่คงที่ ยาบางกลุ่มอาจออกฤทธิ์ได้ไม่รุนแรงมากพอ บางกลุ่มอาจออกฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป และมีผลข้างเคียงซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายน้องหมา นอกจากนี้ตัวยาเถื่อนเหล่านี้ยังพบว่ามักเป็นตัวยาที่อยู่ในกลุ่มของยาฆ่าแมลง ซึ่งส่งผลให้น้องหมาได้รับสารพิษผ่านการดูดซึม หรือเลีย โดยมักพบว่าออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้เกิดอาการชัก และเป็นพิษต่ออวัยวะสำคัญส่วนอื่น ๆ ในร่างกายซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ใช้โปรแกรมปกป้องไม่สม่ำเสมอโปรแกรมปกป้องน้องหมาจากปรสิตร้ายที่สัตวแพทย์แนะนำได้รับการทดสอบว่าออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดที่ระยะเวลา 1 เดือน คำแนะนำจึงแนะนำให้ทำการปกป้องเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง หากเจ้าของเว้นช่วงการป้องกัน หรืองดการป้องกันเมื่อเห็นว่าน้องหมาไม่มีเห็บบนร่างกาย ระดับของยาในร่างกายของน้องหมาจะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการปกป้องลดลงตามไปด้วย ดังนั้น หากอยากมั่นใจว่าน้องหมาจะปลอดภัยจากเห็บตลอดทุกช่วงเวลา อย่าลืมมอบการปกป้องอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำข้างฉลากเพื่อประสิทธิภาพการปกป้องที่ดีที่สุด ไม่ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมถึงแม้จะมอบการปกป้องด้วยโปรแกรมปกป้องที่ดีมากแค่ไหน แต่การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันเห็บซึ่งเป็นพาหะของพยาธิเม็ดเลือด เพราะการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดการสะสมของเห็บในธรรมชาติ ช่วยให้น้องหมาไม่ต้องเผชิญกับการโดนเห็บกัด ช่วยลดโอกาสในการเกิดพยาธิเม็ดเลือด ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเป็นประจำโดยเฉพาะบริเวณที่น้องหมาอาศัยอยู่บ่อย ๆ เช่น ที่นอน หรือภายในบ้าน ด้วยล่ะ ถึงจะปกป้องน้องหมาจากเห็บตัวร้ายแล้ว แต่ถ้าป้องกันไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม น้องหมาก็ไม่อาจรอดพ้นจากเห็บไปได้ !อย่าลืมปกป้องน้องหมาอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้ปกป้องน้องหมาของคุณให้ปลอดภัยจากเห็บ พาหะสำคัญของพยาธิเม็ดเลือดด้วย Super…
-
น้องหมาเลือดกำเดาไหล เกิดจากอะไรได้บ้าง ?
“เลือดกำเดาไหล” หนึ่งในความผิดปกติที่หลายคนเคยพบเจอ แต่รู้หรือไม่ ? น้องหมาเองก็มีเลือดกำเดาไหลได้เหมือนกันนะ อาการเลือดกำเดาไหลในน้องหมาเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า ? แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้น้องหมาเลือดกำเดาไหลได้บ้าง ? ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย ! เลือดกำเดาไหล คืออาการที่น้องหมามีเลือดออกจากโพรงจมูก โดยสาเหตุสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น 1. การเกิดอุบัติเหตุ หรือมีแผลในโพรงจมูก : ปัจจัยนี้เป็นสาเหตุที่เกิดจากตัวของโพรงจมูกเอง เช่น น้องหมาไปวิ่งเล่นแล้วบังเอิญชนโต๊ะ หรือประตูกระจกเข้าอย่างจัง ทำให้เกิดแผลในโพรงจมูก เลือดจึงไหลออกมา หากเจ้าของสังเกตเห็นแบบนี้อย่าเพิ่งตื่นตกใจ เจ้าของสามารถช่วยปฐมพยาบาลน้องหมาเบื้องต้นได้โดยการทำให้พวกเขาอยู่นิ่ง ๆ จากนั้นใช้ผ้าห่อน้ำแข็ง หรือแผ่นประคบเย็นประคบเข้าที่บริเวณจมูกทั้งสองข้าง ประมาณข้างละ 5-10 นาที จากนั้นรีบพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้เลือดกำเดาไหลจากการเกิดอุบัติเหตุนี้หากไม่รุนแรงมักหายได้ภายในระยะเวลาไม่นาน และมักไม่กลับมาเป็นอีกหากไม่เกิดการกระทบกระเทือนซ้ำ 2. มะเร็ง : โรคมะเร็งในโพรงจมูก นับเป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นสาเหตุของการเกิดเลือดกำเดาไหลในน้องหมา มักพบในน้องหมาสายพันธุ์หน้ายาว และอายุค่อนข้างมาก น้องหมาที่ป่วยด้วยมะเร็งในโพรงจมูกนอกจากจะพบอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ แล้ว ยังมักพบว่ามีอาการหายใจลำบาก หายใจเสียงดัง และสามารถสังเกตเห็นจมูกผิดรูป…
-
แชร์ 4 อาชีพฮีโร่สำหรับน้องหมาที่คุณไม่เคยรู้
เชื่อไหมฮีโร่ไม่ได้มีแค่ในละคร น้องหมาเองก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ !แชร์ 4 อาชีพฮีโร่สำหรับน้องหมาที่คุณไม่เคยรู้ มีอะไรบ้างไปดูกัน ! ^^ น้องหมากู้ภัยในทุก ๆ ครั้งที่มีเหตุภัยพิบัติ หรือภัยธรรมชาติเกิดขึ้น หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับการเห็นเจ้าหน้าที่พาน้องหมากู้ภัยมาช่วยงานอยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะน้องหมาเป็นสัตว์ที่มีความชาญฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาสามารถเรียนรู้ และรับการฝึกเพื่อช่วยงานกู้ภัยได้ แถมพวกเขายังมีความคล่องแคล่ว ว่องไว และมีความอดทนสูง ด้วยประสาทสัมผัสทั้งการดมกลิ่น และการได้ยินเสียงที่ดีกว่ามนุษย์ ส่งผลให้น้องหมากู้ภัยเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปได้อย่างราบรื่นเลยล่ะ น้องหมานักบำบัดเชื่อว่าหลายคนที่ประสบกับปัญหาความเครียดบ่อย ๆ คงรู้ดีว่าการเลี้ยงน้องหมานับเป็นการบำบัดความเครียดได้เป็นอย่างดี แต่คุณรู้หรือไม่ ? ว่าโลกนี้มีน้องหมาฮีโร่ที่ถูกฝึกมาเพื่อช่วยบำบัดความเครียดให้กับผู้คนโดยเฉพาะ หรือที่เรามักเรียกว่า “น้องหมานักบำบัด” พวกเขาจะถูกฝึกมาเพื่อช่วยสร้างความสุข และมอบรอยยิ้มให้แก่เจ้าของ ด้วยความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของน้องหมา และความน่ารักน่าชังที่ใครเห็นใครก็รัก ทำให้น้องหมานักบำบัดเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยน้องหมานักบำบัดเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนยากลำบากของชีวิต และกลับมายืดหยัดในโลกใบนี้ได้อีกครั้ง นับเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ในชีวิตจริงของใครหลายคนเลยทีเดียว น้องหมานักนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตา การเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ย่อมเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคในการใช้ชีวิต น้องหมานักนำทาง หรือน้องหมาช่วยเหลือคนพิการ จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้ ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ และประสาทสัมผัสในการรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ทำให้น้องหมานักนำทางเข้ามามีบทบาทเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการทางสายตาได้เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น แถมด้วยนิสัยขี้เล่น และรักเจ้าของของน้องหมายังทำให้การเดินทางไม่เปล่าเปลี่ยว และโดดเดี่ยวอีกต่อไป บอกลาการเดินทางอันแสนน่าเบื่อ เปลี่ยนเป็นการเดินทางอันแสนสนุก…