Category: ไลฟ์สไตล์
-
เห็บกัดระวังพยาธิเม็ดเลือด !
โรคร้ายที่แฝงมากับเห็บ ปล่อยไว้อันตรายถึงชีวิต ! รู้หรือไม่ !? เห็บกัดไม่ใช่แค่คัน แต่ยังนำโรคร้ายอย่าง “โรคพยาธิเม็ดเลือด” มาสู่น้องหมาได้อีกด้วย ! 😱 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากอะไรกันนะ ? 🐶โรคพยาธิเม็ดเลือดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งมี “เห็บ” เป็นพาหะ โดยน้องหมาจะได้รับเชื้อชนิดนี้ผ่านทางการโดนเห็บกัด สามารถพบได้บ่อยในน้องหมาที่ไม่ได้รับการป้องกันปรสิตอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้โปรแกรมป้องกันปรสิตที่ไม่ได้มาตรฐาน 🩸 อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดเป็นอย่างไร ? 🤔อาการของโรคพยาธิเม็ดเลือดที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด คือ น้องหมาจะมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ต่อมน้ำเหลืองบวมโต หายใจลำบาก ในบางรายอาจพบจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล และอาการทางประสาทร่วมด้วยได้ 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือดรักษาได้อย่างไร ? 💊หากน้องหมาป่วยด้วยโรคพยาธิเม็ดเลือด สัตวแพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานถึง 28 วัน โดยหลังจากให้ยาครบตามจำนวนแล้ว น้องหมาจะต้องเข้ารับการตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในร่างกาย หากยังคงตรวจพบเชื้ออยู่ น้องหมาจำเป็นต้องได้รับยาต่อเนื่องอีกครั้งจนกว่าจะหาย หรือทำการเปลี่ยนชนิดของยาเพื่อทำการกำจัดเชื้อให้สิ้นซาก ร่วมไปกับการรักษาตามอาการ เช่น การให้สารน้ำ การให้ยาลดอักเสบ ยากดภูมิ หรือแม้กระทั่งการถ่ายเลือดในรายที่มีอาการรุนแรง 🩸 โรคพยาธิเม็ดเลือด ป้องกันไว้ดีกว่าตามรักษา 🛡ถึงแม้โรคพยาธิเม็ดเลือดจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็ยากที่จะฟื้นฟูกลับมาได้เหมือนเก่า ซ้ำร้ายหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม…
-
เลี้ยงน้องหมาในบ้าน ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต
“การป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา” ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่น้องหมาก็ยัง “จำเป็น” ต้องป้องกันปรสิต3 เหตุผลที่ถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาแค่ภายในบ้าน แต่ก็ยังจำเป็นต้องป้องกันปรสิต ได้แก่ 1. ปรสิตสามารถติดมากับเจ้าของได้ 👫🏻ไม่ว่าจะเห็บ หมัด หรือไข่ของพยาธิในระบบทางเดินอาหาร ปรสิตร้ายเหล่านี้สามารถติดมากับเจ้าของได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือแม้กระทั่งบนร่างกายของเจ้าของเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของท่านไหนที่มักเดินทางไปในบริเวณที่มีความสกปรก บริเวณที่เป็นพื้นดิน หรือบริเวณที่มีน้องหมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถึงแม้จะเลี้ยงน้องหมาให้อยู่แค่ภายในบ้าน แต่ปรสิตร้ายก็อาจเข้ามารุกรานน้องหมาได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีอย่าลืมเสริมเกราะป้องกันให้ครบทั้ง 3 ชั้น เพื่อปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจ เห็บ หมัด และพยาธิทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถติดได้ง่าย และพบเจอได้บ่อย ป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด ! 2. ปรสิตอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 🌴ความน่ากลัวของปรสิตไม่หยุดเพียงแค่สามารถติดต่อได้ง่าย แต่พวกมันยังมีความคงทน สามารถอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน เช่น เห็บสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 ปี (โดยในระหว่าง 2 ปีนี้ เห็บเพศเมียจะสามารถออกไข่ได้สูงสุดถึง 4,000 ฟอง !) หมัดสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 6 เดือน (แถมในระหว่าง 6 เดือนนี้ หมัดเพศเมียยังสามารถออกไข่ได้มากถึงวันละ 50…
-
เพราะโรคพยาธิหนอนหัวใจ คือหนึ่งโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต
หากน้องหมาป่วยด้วยโรคหัวใจสามารถทำการรักษาอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน ! 💉 รักษาโดยการให้ยาmน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจสามารถทำการรักษาได้ด้วยการกินยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบแฝงมากับพยาธิหนอนหัวใจ ร่วมกับการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบั้นเอวเพื่อช่วยในการกำจัดพยาธิหนอนหัวใจตัวเต็มวัยอย่างช้า ๆ ซึ่งการรักษานี้จำเป็นต้องให้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน (ประมาณ 90 วัน) อีกทั้งตัวยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังก่อให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก (มากจนคุณหมอต้องให้ยาแก้ปวดควบคู่ไปด้วยทุกครั้งเลยล่ะ) แถมในระหว่างการรักษายังจำเป็นต้องจำกัดบริเวณน้องหมา ด้วยการขังกรง หรือควบคุมให้น้องหมาเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย เรียกได้ว่าทรมานทั้งเจ้าของที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด ทรมานทั้งน้องหมาที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และแสนเจ็บปวดเลยทีเดียว 🩸 รักษาโดยการผ่าตัดสำหรับน้องหมาที่ป่วยด้วยโรคพยาธิหนอนหัวใจขั้นรุนแรง หรือเกิดภาวะพยาธิหนอนหัวใจอุดตัน (caval syndrome) คุณหมออาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อเอาพยาธิหนอนหัวใจออกจากร่างกาย ทั้งนี้การผ่าตัดดังกล่าวนับว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายน้องหมาจะอ่อนแอ และด้วยระบบหมุนเวียนเลือดที่มีปัญหาย่อมส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการวางยาสลบมีมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่าน้องหมาอาจเสียชีวิตในระหว่างขั้นตอนการรักษาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากจำเป็นต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด คุณหมอจะแจ้งความเสี่ยงดังกล่าวให้กับเจ้าของ และตัดสินใจวางแผนการรักษาร่วมกันต่อไป 🧡 เสริมการป้องกันด้วยโปรแกรมปกป้องจาก Super TRIOโปรแกรมปกป้องจาก Super TRIO จะช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับน้องหมา ช่วยให้น้องหมาปลอดภัยจากพยาธิหนอนหัวใจ ปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิต สามารถให้ได้ในระหว่างที่น้องหมากำลังทำการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจ ด้วยฤทธิ์ในการกำจัดตัวอ่อนของพยาธิจะช่วยให้พยาธิหนอนหัวใจไม่เกิดการเพิ่มจำนวน อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสในการพัฒนาของตัวอ่อนเป็นตัวเต็มวัยได้อีกด้วย และเมื่อน้องหมาหายจากโรคพยาธิหนอนหัวใจแล้ว Super TRIO จะช่วยปกป้องน้องหมาจากพยาธิหนอนหัวใจตัวใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับการโดนยุงกัด หมดกังวลว่าน้องหมาจะกลับไปเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจซ้ำได้เลย ! รักน้องหมา อย่าปล่อยให้น้องหมาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคพยาธิหนอนหัวใจ เสริมเกราะป้องกันให้น้อง ๆ…
-
ไปโรงบาลก็นั่งชิลได้ !
Passion Cafeร้านกาแฟ Pet Friendly สำหรับคนรักน้องหมา น้องแมว เปิดโลกใหม่กับการพาน้องหมา น้องแมวไปนั่งชิลที่(คาเฟ่)ในโรงพยาบาลสัตว์ กับ Passion Cafe ! 🥳คาเฟ่เปิดใหม่ภายในโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ที่มีจุดเด่นทั้ง ✅ คาเฟ่ Pet Friendly ที่เจ้าของสามารถพาน้องหมา น้องแมวมานั่งชิลพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน 🐶 🐱 ✅ บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้หลากหหลายสีสันที่ลงตัว ให้บรรยากาศแบบสวนดอกไม้ สายรักธรรมชาติห้ามพลาด ! 🌸 ✅ ให้บริการทั้งกาแฟสด เครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารจานเดียว อีกทั้งยังมีอาหารและขนมน้องหมาและน้องแมวให้บริการอีกด้วย ☕️🥐🍛 ถึงแม้จะไม่ได้พาน้องหมา น้องแมวมารักษาก็สามารถมานั่งเล่น นั่งชิลได้ ตอบโจทย์สายคาเฟ่สุด ๆ 😍รู้แบบนี้อย่ารอช้า ไปนั่งจิบกาแฟ พาน้องหมา น้องแมวมานั่งชิลกันได้เลยยย ❤️ 🗓 ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 19.00 น.☎️ เบอร์โทรศัพท์ :…
-
How to พาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีน
เพราะเรารู้ว่าการเป็นคุณพ่อ คุณแม่ (สำหรับน้องหมา น้องแมว) มือใหม่ มีเรื่องให้น่าปวดหัวมากแค่ไหน 😂โดยเฉพาะขั้นตอนการพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีนที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ก็จริง ๆ แล้วก็มีรายละเอียดให้ใส่ใจ (แถมยังมองข้ามไม่ได้) 🤔ในวันนี้ เราจะมาเผยขั้นตอนแบบละเอียด(ยิบ) สำหรับการพาน้องหมา น้องแมวไปรับการฉีดวัคซีนกับคุณหมอ จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกัน ! 1. เตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน 🏠ก่อนพาน้องหมา น้องแมวออกจากบ้านเพื่อไปฉีดวัคซีน อย่าลืมเตรียมสายจูงสำหรับน้องหมา หรือตะกร้าสำหรับใส่น้องแมวให้พร้อม และจดบันทึกข้อมูลที่สำคัญ เช่น อายุ โรคประจำตัว ประวัติการรักษา และที่สำคัญอย่าลืมสังเกตความผิดปกติ หรือความเจ็บป่วยที่น้องหมากำลังเป็น (อาจสังเกตจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป) เพราะหากน้องหมากำลังเจ็บป่วย สัตวแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาจนหายดีก่อน แล้วจึงวางแผนการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา เช่น น้องหมามีอาการป่วยที่แย่ลง หรือการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เป็นต้น 2. แจ้งเจ้าหน้าที่ 👩🏻⚕️เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล หรือคลินิก เจ้าของสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับการฉีดวัคซีน (หรือยื่นใบนัด กรณีมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น) และแจ้งประวัติสุขภาพเบื้องต้นเพื่อรอพบคุณหมอได้เลย ! 3. รับการตรวจ และฉีดวัคซีนกับคุณหมอ 👨🏻⚕️เมื่อคุณพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจ คราวนี้ก็ถึงเวลาฉีดวัคซีนกันแล้ว !…
-
แจกโพยวัคซีนฉบับอัพเดต !
ใครกำลังมองหาโปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องหมา น้องแมวอยู่บ้าง ยกมือขึ้น ! 🙋🏻♂️2023 นี้ ต้องพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีนอะไรบ้างไปดูกันเลย 🥳 🐶 โปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องหมา🗓 อายุ 8 สัปดาห์ (2 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มแรก🗓 อายุ 12 สัปดาห์ (3 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มที่สอง วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรก🗓 อายุ 16 สัปดาห์ (4 เดือน) : วัคซีนรวมเข็มที่สาม วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มที่สอง🗓 ทุกปี : วัคซีนรวม และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มกระตุ้น* วัคซีนรวมสำหรับน้องหมาสามารถป้องกันโรคร้ายได้ 5 โรค ได้แก่ โรคไข้หัดสุนัข โรคตับอักเสบ โรคลำไส้อักเสบ โรคหวัดและหลอดมลมอักเสบ และโรคฉี่หนู** โปรแกรมวัคซีนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค การระบาดของโรคในพื้นที่ สุขภาพของน้องหมา และการเลี้ยงดูจากเจ้าของ 🐱 โปรแกรมวัคซีนสำหรับน้องแมว🗓 อายุ 8 สัปดาห์ (2…
-
สร้างภูมิปลอดภัย ป้องกันโรคร้ายด้วยวัคซีน
เพราะเชื้อโรคร้ายอยู่รายล้อมรอบตัวน้องหมา น้องแมว และพวกมันอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการป่วยได้ทุกเมื่อการพาน้องหมา น้องแมวไปรับการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์จึงเป็นหนึ่งในการดูแลที่เจ้าของควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้น้องหมา น้องแมวมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้มากขึ้น !3 เรื่องที่เจ้าของควรรู้ก่อนพาน้องหมา น้องแมวไปฉีดวัคซีน มีดังนี้ ✅ 1. เริ่มเข็มแรกที่ 2 เดือน !เมื่อน้องหมา น้องแมวมีอายุได้ 8 สัปดาห์ หรือประมาณ 2 เดือน เจ้าของควรพาน้องหมา น้องแมวไปรับการตรวจร่างกาย และเริ่มโปรแกรมวัคซีนเข็มแรกเพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกเขา เพราะช่วงอายุนี้เป็นช่วงอายุที่ระดับภูมิคุ้มกันที่น้อง ๆ ได้รับจากแม่เริ่มลดน้อยลง และเป็นช่วงที่พวกเขามีโอกาสในการติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสูง การได้รับวัคซีนจะช่วยให้ร่างกายของน้องหมา น้องแมวเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง และสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย ป้องกันอาการป่วยจากการติดเชื้อได้ ! ✅ 2. วัคซีนหลักต้องทำให้ครบ !โดยปกติสัตวแพทย์จะทำการแบ่งประเภทของวัคซีนออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ วัคซีนหลัก (แนะนำให้ฉีดในน้องหมา น้องแมวทุกตัว) และวัคซีนทางเลือก (แนะนำให้ฉีดในน้องหมา น้องแมวที่มีความเสี่ยงต่อโรคนั้น ๆ สูง) โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้🐶 วัคซีนหลักในน้องหมา ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัดสุนัข…
-
3 เคล็ดไม่ลับ ดูแลน้องหมาช่วงหน้าฝน
🌧 ฝนตกแบบนี้ ควรดูแลน้องหมาอย่างไรไปดูกัน ! ✅ เช็ดตัวให้แห้ง อย่าปล่อยให้ขนน้องหมาเปียกชื้นฝนตก น้องหมาเปียก อย่าลืมพาพวกเขาไปเช็ดตัว และเป่าลมให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นซอกหลืบ และก่อให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย เช่น ง่ามขา ซอกหู หรือแม้กระทั่งง่ามเท้าทั้งสี่ข้าง เพราะความชื้นเป็นสาเหตุของการสะสมของเชื้อรา และยีสต์ซึ่งมักก่อให้เกิดอาการคันในน้องหมา โดยหากน้องหมามีเชื้อรา หรือยีสต์สะสมบนร่างกาย พวกเขาจะมีอาการคันมาก เกา หรือเลียบริเวณที่คันบ่อย อีกทั้งยังมีกลิ่นเหม็นบนร่างกาย เรียกได้ว่าทรมานทั้งคนเลี้ยง ทรมานทั้งน้องหมาเลยล่ะ หากน้องหมาแสดงอาการป่วยเหล่านี้ ควรรีบพาน้องไปรับการรักษาจากสัตวแพทย์โดยด่วน ✅ ระบายอากาศ อย่าปล่อยให้ห้องอับชื้นฝนตกย่อมคู่กับอากาศชื้น แต่คุณรู้หรือไม่ ? อากาศชื้นไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความไม่สบายตัว แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเพิ่มขึ้นของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย โดยเชื้อเหล่านี้จะส่งผลให้น้องหมาป่วยด้วยโรคหวัด และโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดไปมาระหว่างกันในน้องหมาได้ (บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาร่วมกันหลายตัว ต้องระวังการแพร่ระบาดของโรคเหล่านี้ในหน้าฝนให้ดีเลยล่ะ) โดยอาการที่สามารถสังเกตได้มีตั้งแต่อาการไอแบบมีเสมหะ มีน้ำมูกไหล ไปจนถึงมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร ในรายที่รุนแรงอาจถึงขั้นเกิดภาวะปอดบวม และเสียชีวิตได้เลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไป ! เพราะโรคหวัดสามารถป้องกันได้เพียงการพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำทุกปี (วัคซีนรวมที่น้องหมาฉีดจะช่วยให้น้องหมามีภูมิคุ้มกันต่อโรคหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อได้นั่นเอง) ดังนั้นหน้าฝนแบบนี้อย่าลืมเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อไม่ปล่อยให้ห้องอับชื้น และพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนกันด้วยนะ…
-
น้องหมาวัยเด็กควรเริ่มป้องกันปรสิตตั้งแต่อายุเท่าไร ?
🤔 หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่า “น้องหมาวัยเด็กควรเริ่มป้องกันปรสิตตั้งแต่อายุเท่าไร ?” วันนี้เรามีคำตอบ ! 🤩 ✅ เริ่มทันทีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ : ปรสิตร้ายต้องเริ่มป้องกันตั้งแต่แม่น้องหมากำลังตั้งท้อง เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่แม่น้องหมามีความอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการติดปรสิตเป็นอย่างมาก แถมปรสิตกลุ่มพยาธิภายในบางชนิด เช่น พยาธิตัวกลม และพยาธิปากขอยังสามารถติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้อีกด้วย ทั้งนี้โปรแกรมปกป้องที่เลือกใช้ควรเลือกชนิดที่สามารถใช้ได้ในแม่สุนัขตั้งท้อง เช่น ยาหยดหลังที่ช่วยปกป้องน้องหมาจากหมัด เห็บ ไร และพยาธิหนอนหัวใจ โดยควรให้ควบคู่ไปกับการถ่ายพยาธิเป็นประจำ เพื่อเสริมการปกป้องน้องหมาให้ครอบคลุมถึงพยาธิภายในด้วยนั่นเองตั้งแต่น้องหมาลืมตาดูโลก : ดูแลรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมที่น้องหมาอยู่อาศัยเพื่อลดโอกาสการได้รับไข่พยาธิ การโดนเห็บ หมัดรุกราน หรือการโดนยุงซึ่งเป็นพาหะของพยาธิหนอนหัวใจกัด เพราะสิ่งแวดล้อมที่สะอาด และปลอดภัยย่อมทำให้น้องหมาปลอดภัยจากปรสิตร้ายที่อันตรายถึงชีวิตมากยิ่งขึ้น ✅ เริ่มเมื่อน้องหมาอายุ 3 สัปดาห์เมื่อน้องหมาอายุครบ 3 สัปดาห์ สามารถพาน้องหมาไปรับโปรแกรมการถ่ายพยาธิจากสัตวแพทย์ใกล้บ้าน พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลอย่างเหมาะสม โดยหลังจากเริ่มการถ่ายพยาธิครั้งแรกแล้วจึงพาน้องหมามารับการถ่ายพยาธิซ้ำอีกทุก ๆ 2 สัปดาห์ จนน้องหมาอายุครบ 8-10 สัปดาห์ หลังจากนั้นควรพาน้องหมามาถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 3-4 เดือน (ความถี่ที่สัตวแพทย์แนะนำขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการได้รับพยาธิจากสิ่งแวดล้อมของน้องหมาตัวนั้น ๆ) พร้อมทั้งเสริมเกราะป้องกันพยาธิภายในให้กับน้องหมาเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการติดพยาธิในระบบทางเดินอาหารกลุ่มพยาธิตัวกลม และปากขอ เพื่อลดโอกาสการสะสมของพยาธิภายในร่างกาย ✅ เริ่มเมื่อน้องหมาอายุ 8…
-
3 โรคร้ายในน้องหมา น้องแมวที่ติดคนได้
รู้หรือไม่ ? โรคร้ายบางโรคที่น้องหมา น้องแมวเป็นก็สามารถติดคนได้ 😱3 โรคร้ายในน้องหมา น้องแมวที่ติดคนได้ (แถมยังอันตรายมากด้วย !) มีดังนี้ 1️⃣ โรคพิษสุนัขบ้า : นับเป็นหนึ่งในโรคจากสัตว์สู่คนที่มีความอันตรายสูง เพราะเป็นโรคที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังไม่มีหนทางในการรักษาให้หายขาด ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้มักเสียชีวิตเกือบทุกราย อีกทั้งยังสามารถติดมาสู่คนได้ง่าย ๆ ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง โดยเฉพาะน้ำลายของน้องหมา น้องแมว ไม่ว่าจะเป็นการโดนกัด โดนข่วน หรือแม้แต่การโดนเลีย ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าจะถูกเชื้อไวรัสทำลายที่ระบบประสาท ส่งผลให้มีอาการกระสับกระส่าย ตื่นตกใจง่าย ชัก เป็นอัมพาต การหายใจ และการเต้นของหัวใจล้มเหลวจนเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด แต่ถึงจะน่ากลัวแค่ไหน โรคพิษสุนัขบ้าก็สามารถป้องกันได้ ! เพียงการพาน้องหมา น้องแมวไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง และเมื่อเจ้าของโดนกัด หรือข่วนควรรีบล้างแผลด้วยสบู่ และน้ำสะอาด จากนั้นรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที เพียงเท่านี้ก็หมดกังวลเรื่องโรคพิษสุนัขบ้าได้แล้วล่ะ 2️⃣ โรคฉี่หนู : หน้าฝนแบบนี้จะพาน้องหมา น้องแมวออกเดินทางไปไหนมาไหนระวังโรคฉี่หนูให้ดี ! เพราะโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในพื้นดิน เมื่อฝนตก เชื้อจะออกมาปะปนกับน้ำ และก่อให้เกิดการแพร่ระบาดได้นั่นเอง โดยโรคฉี่หนูจะทำให้น้องหมา น้องแมวป่วย และแพร่เชื้อออกมากับปัสสาวะ เมื่อคนเราสัมผัสเข้ากับปัสสาวะที่ปนเปื้อนของน้องหมา…